ทำไมฉันโกรธตลอดเวลา Why Am I Angry All the Time?

คำถามยอดฮิต: ทำไมฉันถึงโกรธตลอดเวลา?

ความโกรธกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้คนในยุคนี้ จากการศึกษาพบว่า ประมาณ 12% ไม่สามารถควบคุมความโกรธของตนได้ และมากกว่า 20% บอกว่าพวกเขายุติความสัมพันธ์กับคนที่โกรธง่าย ขี้หงุดหงิด และมากกว่า 60% ไม่รู้จะหาทางออกจากเรื่องนี้ได้อย่างไร

ความโกรธเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคนๆ หนึ่งมีความไม่พอใจในบางสิ่งหรือกับใครบางคน โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ผู้คนสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ทำให้ไม่มีใครรออะไรได้นาน การขาดความอดทนอาจทำให้เกิดอารมณ์โกรธถ้ามีสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง บางคนถึงขั้นลงมือทำร้ายคนอื่น หากเจอกับคนแบบนี้ควรเดินหนีไปให้ห่าง

คนที่โกรธน้อยมักเป็นคนในวัยที่ไม่ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมอย่างมาก คนขี้โมโหบางคน เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ก็เริ่มโทษตัวเอง ทำร้ายตัวเอง เช่น การกรีดแขน ซึ่งเป็นสิ่งอันตรายมาก

ในครอบครัว เด็กๆ อาจโกรธพ่อแม่เมื่อไม่ตามใจหรือไม่ซื้อของเล่น มือถือ iPhone หรือ iPad ที่ต้องการ ในโรงเรียน เด็กๆ อาจถูกล้อเลียน ข่มขู่ ทำร้าย ทำให้ไม่มีความสุข โกรธและเครียดอยู่ตลอดเวลา แต่ความโกรธประเภทนี้มักเกิดจากความกลัว

คนที่นอนน้อยหรือเครียดจนนอนไม่หลับ ร่างกายจะไม่สามารถปลดปล่อยอารมณ์ลบออกไปในระหว่างการนอน ทำให้ความเครียดและอารมณ์ลบเหล่านั้นค้างคาในร่างกาย

ความโกรธสามารถแบ่งออกตามระดับวัยได้หลายประเภท

• ความกราดเกรี้ยวฉุนเฉียวของเด็กๆ (Tantrum) ที่พ่อแม่ไม่ตามใจ ไม่ซื้อของที่ต้องการ มักจะกรีดร้อง ร้องไห้ หรือทำเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจ

• ความโกรธของวัยรุ่นเมื่อมีความไม่พอใจต่อพ่อแม่ พ่อแม่อาจเข้มงวดเกินไปหรือไม่ให้เสรีภาพ ทำให้พวกเขาหันไปบูลลี่คนอื่นในโรงเรียนเพื่อแสดงออกถึงอำนาจที่ตนมี โดยเลือกเหยื่อที่อ่อนแอกว่า

คนที่ขี้โมโหอาจมีผลเสียต่อร่างกายมากมาย ทำให้สลบเป็นลมได้ง่าย เมื่อโกรธมากๆ ความโกรธสามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่นๆ ในร่างกายและทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ คนที่ปล่อยให้ตัวเองโกรธบ่อยๆ ก็อาจมีความรุนแรงจนทำร้ายคนอื่นและต้องไปอยู่ในคุก

• การขาดสติในการยับยั้งชั่งใจที่มาจากสารเสพติด อาจทำให้คนโกรธเกรี้ยวและทำร้ายตนเองหรือคนอื่น โดยเฉพาะคนในบ้านได้ง่ายกว่า เพราะสารเสพติดทำลายสมองที่ใช้ในการควบคุมตัวเอง.

แต่ความโกรธก็มีข้อดี ทำให้คุณระบายความอึดอัดออกมา ตอนคุณโกรธก็เหมือนน้ำในกาต้มน้ำร้อนที่ต้องพ่นไอน้ำออกมาก่อนที่มันจะระเบิด.

ท้ายที่สุด คุณต้องมองหาสาเหตุที่ทำให้คุณโกรธเพื่อเผชิญหน้ากับมันอย่างมีสติ ต้องเรียนรู้ว่าสิ่งใดกระตุ้นความโกรธ (Triggers) และเมื่อเข้าใจแล้ว คุณจะรู้ว่าสิ่งใดนำคุณไปสู่สภาวะนั้น คุณควรเรียนรู้วิธีจัดการความโกรธ (Anger Management) โดยมองเข้าไปข้างในและอย่าโทษคนอื่นหรือโทษตัวเอง.

คำแนะนำเวลาที่โกรธคือ อย่าพูด เพราะการพูดในเวลานั้นอาจทำร้ายตัวเองและผู้ฟัง ควรหลีกหนีไปที่ไหนสักแห่งและหายใจลึก ๆ หายใจเอาความผ่อนคลายเข้าไป และปล่อยความโกรธออกมา ทำใจให้สงบ จากนั้นหาทางออกที่ทุกฝ่ายจะพอใจ อย่าปล่อยให้เรื่องคาราคาซัง เพราะมันจะกลับมาและกลายเป็นปัญหาในอนาคต.